“ปากน้ำเมืองถ่าน” นามที่แปลมาจากคำว่ากัวลาบารา
(Kualabara)ในอดีตคือชื่อดั้งเดิมของเมืองท่าเรือ
ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์เมืองหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ใน อ.ระงู จังหวัดสตูล
ด้วยเหตุที่เป็นเมืองท่าส่งออกถ่านไม้โกงกางในสมัยนั้น
แต่ในเรื่องประวัติศาสตร์ของชุมชนก็มักมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันไปบ้าง เช่น
อีกเรื่องราวซึ่งบอกเล่ากล่าวกันว่าบ้านปากบาราที่เรียกกันอยู่ในปัจจุบันนั้น “ปากบารา” มาจากคำว่า “ กัวลาปารา” ซึ่งเป็นภาษามลายู
แปลว่าหินที่ชุกชุมของปลาแดง ซึ่งเป็นปลาที่ชาวบ้านเรียกว่า ปลาปารา
จะพบมากในบริเวณนี้ จึงเพี้ยนมาเป็นปากบาราในปัจจุบัน
หาดปากบารา
อยู่ระหว่างเดินทางถึงท่าเรือปากบาราขาเข้าด้านซ้ายมือ
สังเกตุได้จากได้ก่อนเข้าตัวท่าเรือปาบาราประมาณ 2 กิโลเมตร จะมีจุดชมวิวทะเลริมหาดปากบารารวมไปถึงรีสอร์ทที่พัก
ร้านอาหาร ติดริมถนนไปยังท่าเรือปากบาราหรือที่ทำการอุทยานแห่งชาติตะรุเตา
บริเวณริมหาดมีร้านอาหารให้เลือกใช้บริการได้มากมาย
บรรยากาศริมหาดปากบาราเงียบสงบ น้ำทะเลใสสะอาดเหมาะแก่การลงเล่นน้ำ
และพักผ่อนริมหาด นักท่องเที่ยวที่ต้องการข้าไปยังเกาะตะรุเตาในช่วงเช้าแบบสบาย ๆ
แบบไม่อยากเหนื่อยมาก ก็มาแวะพักรีสอร์ทบริเวณริมหาดปากบารา
ซึ่งมีบริการให้เลือกมากมายในราคาไม่แพง
บรรยากาศริมทะเลปากบารา
ชายหาด
ชายหาด
ริมชายหาด 18 ล้าน
จุดชมวิวชายหาดปากบารา (18 ล้าน)
เป็นจุดที่มาปากบาราแล้วต้องแวะชม
ยามเย็น
ริมชายหาดปกบารา
ชาวบ้านมักจะหาหอยไปทำอาหารหรือนำไปขายเป็นรายได้เพราะความอุดมสมบูรณ์ของทะเลอ่าวปากบารา
อ.ละงู จ.สตูล แท้ๆ
ที่ทำให้ชาวบ้านถิ่นนี้อยู่ดีกินกีมีความสุขจากการหาอยู่หากินเรียบง่ายภายใต้วิถีชีวิตบ้านๆ
แบบไม่เบียดเบียนใคร ไม่ยอมให้ใครมาเบียดเบียนรังแก
แต่ยินดีเป็นมิตรกับแขกต่างถิ่นทุกคน นี่คือเอกลักษณ์ดีงามอย่างหนึ่งของ จ.สตูล
เมืองท่าที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติมากมายควรค่าแก่การรักษาไว้ให้ลูกหลาน
ที่นี่แม้กระทั่งบริเวณชายหาดยังเต็มไปด้วยทรัพยากรมากมาย
ยามเย็นก่อนดวงอาทิตย์ตก
ก่อนแสงสุดท้ายจะลับของฟ้าท้องฟ้าจะมีสีส้มแสด
ลาน 18 ล้าน
ทุกเย็นวันอาทิตย์ ณ
จุดชมวิวชายหาดปากบาราหรือตลาดนัดลาน 18 ล้าน
เป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยมของพี่น้องชาวอำเภอละงู
ซึ่งเป็นแหล่งจำหน่ายอาหารทะเลพื้นเมืองของชาวสตูลสามารถนั่งรับประทานอาหารพร้อมชมพระอาทิตย์ตกในเวลาเย็นกับบรรยากาศอันแสนอบอุ่น
สตูลสวยมากครับ
ตอบลบ